ปะยางรถยนต์แบบไหนดี

วิธีปะยางรถยนต์ แบบไหนดีที่สุด? เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย

การปะยางรถยนต์เป็นสิ่งที่คนที่ขับรถจะต้องเจออย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต เพราะท้องถนนเมืองไทย ขึ้นชื่อว่าไม่ต่างจากพื้นผิวบนดาวอังคาร ไม่ว่าจะเป็นหลุม บ่อ ตะปู เหล็กแหลม หรือกระสอบปูน ทำให้บางครั้งยางรถยนต์ถูกทิ่มตำแล้วจะทำให้เกิดการรั่วซึมลม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขับขี่และความปลอดภัยได้ แต่ว่าการปะยางรถยนต์ก็มีหลายวิธี แต่ละวิธีมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป บทความนี้จึงจะพาคุณไปรู้จักกับวิธีปะยางรถยนต์แต่ละวิธี พร้อมเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย เพื่อให้คุณสามารถเลือกวิธีปะยางที่เหมาะสมกับยางของคุณ

ร้านปะยางใกล์ฉัน
เพิ่มเพื่อน

ขั้นตอนการปะยางรถยนต์แบบแทงไหม

การปะยางรถยนต์แบบแทงไหม เป็นการใช้ใยไหมพิเศษ ที่ผสมกับกาว เพื่ออุดรูรั่วของยาง โดยไม่จำเป็นต้องถอดล้อออกจากรถ เพียงแค่ใช้เครื่องมือพื้นฐาน เช่น คีม สว่าน เข็มปะยาง เป็นต้น

ขั้นตอนการปะยางรถยนต์แบบแทงไหม มีดังนี้

  1. ตรวจสอบ สิ่งที่เป็นสาเหตุให้ยาง รั่ว เช่น ตะปู เหล็ก แหลม กระสอบ ปูน เป็นต้น
  2. ดึง สิ่ง ที่ ทิ่ม ตำ ยาง ออก โดยใช้คีม หรืออุปกรณ์ อื่น ที่เหมาะสม
  3. ใช้ สว่าน เบอร์ เล็ก ที่มีปลายเกลียว หรือตะไบ หาง หนู ที่มีปลายแหลม เพื่อทำความสะอาดและขยายรูรั่วให้ใหญ่ขึ้น
  4. นำ เข็ม ปะ ยาง ที่มีตาสำหรับสอดใยไหม เข้าไปในรูรั่ว แล้วหมุนเข็มเพื่อขยายรูให้กว้างขึ้น
  5. ทา กาว บนใยไหม แล้วสอดใยไหมเข้าไปในตาเข็ม
  6. อุด เข็มที่มีใยไหมเข้าไปในรูรั่ว โดยใช้แรงกดเข็มลงไปจนถึงครึ่งทาง
  7. ดึง เข็มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยไม่บิดเข็ม เพื่อป้องกันการหลุดของใยไหม
  8. ตัด ใยไหมส่วนที่โผล่ออกมา เพื่อให้เรียบร้อย

ข้อดีและข้อเสียของการปะยางรถยนต์แบบแทงไหม

การปะยางรถยนต์แบบแทงไหม เป็นวิธีการที่มีความสะดวกและประหยัด เพราะ

  • ไม่จำเป็นต้องถอดล้อออกจากรถ
  • ไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ
  • ไม่ต้องเข้าศูนย์บริการ
  • สามารถทำได้ด้วยตัวเอง
  • ใช้เวลาไม่นาน

แต่การปะยางรถยนต์แบบแทงไหม ก็มีข้อเสียบ้าง เช่น

  • ไม่สามารถปะรูรั่วที่ใหญ่
  • ไม่สามารถปะบริเวณแก้มยาง
  • ไม่สามารถป้องกันการรั่วซึมจากความร้อน
  • ไม่สามารถคืนความแข็งแกร่งให้กับยาง

วิธีปะยางรถยนต์แบบสตรีมร้อน

การปะยางแบบสตรีมร้อนเป็นวิธีการปะยางที่ถอดยางออกมาจากล้อ แล้วปะแผลรั่วจากด้านในท้องยาง โดยใช้แผ่นยางขนาดเล็กมาแปะไว้ที่รอยรั่ว จากนั้นจึงใช้เครื่องกดความร้อนเพื่อสมานเนื้อยางให้กลายเป็นเนื้อเดียวกัน

ขั้นตอนวิธีปะยางแบบสตรีมร้อน

  1. ถอดยางออกจากล้อ
  2. ใช้กระดาษทรายหรือหัวเจียรขัดผิวรอบๆ รูรั่วให้สะอาดและเรียบ
  3. เลือกแผ่นยางปะยางที่มีขนาดพอดีกับรูรั่ว
  4. ทากาวสำหรับปะยางที่แผ่นยางปะยาง
  5. วางแผ่นยางปะยางปิดทับรูรั่ว
  6. ใช้เครื่องกดความร้อนกดแผ่นยางปะยางให้ติดแน่น
  7. ประกอบล้อและเติมลมยาง

ข้อดี-ข้อเสียของการปะยางแบบสตรีมร้อน

การปะยางรถยนต์แบบสตรีมร้อน เป็นวิธีการที่มีความสะดวกและประหยัด เพราะ

  • ไม่จำเป็นต้องถอดล้อออกจากรถ
  • ไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ
  • ไม่ต้องเข้าศูนย์บริการ
  • สามารถทำได้ด้วยตัวเอง
  • ใช้เวลาไม่นาน

แต่การปะยางรถยนต์แบบสตรีมร้อน ก็มีข้อเสียบ้าง เช่น

  • ไม่สามารถปะรูรั่วที่ใหญ่
  • ไม่สามารถปะบริเวณแก้มยาง
  • ไม่สามารถป้องกันการรั่วซึมจากความร้อน

วิธีปะยางรถยนต์แบบสตรีมเย็น

การปะยางแบบสตรีมเย็นเป็นวิธีการปะยางที่ถอดยางออกจากล้อ แล้วปะรอยรั่วจากด้านในโดยใช้แผ่นยางขนาดเล็ก และกาวปะยางแบบพิเศษ โดยกระบวนการปะยางจะแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน ดังนี้

ขั้นตอนวิธีปะยางแบบสตรีมเย็น

  1. ถอดล้อออกจากรถ เพื่อหารอยรั่ว
  2. ขัดผิวรูลอกรอบ ๆ รูรั่วด้านใน เพื่อทำความสะอาด
  3. ทากาวปะยางแบบพิเศษลงไปบนผิวที่ขัด
  4. แปะแผ่นยางชิ้นเล็กลงไปบนผิวที่ทากาว
  5. ทุบให้แผ่นยางและผิวที่ขัดเข้ากัน
  6. เติมลมล้อให้เหมาะสม
  7. ประกอบล้อกลับเข้าไปในรถ

ข้อดี-ข้อเสียของการปะยางแบบสตรีมเย็น

  • เป็นการปะที่ไม่ใช้ความร้อน เพื่อไม่กระทบต่อโครงสร้างยาง
  • เป็นการปะที่สามารถปิดรอยรั่วได้สนิท มีความทนทาน
  • เป็นการปะที่เหมาะสำหรับยางทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นยางที่มียางใน หรือไม่มียางใน
  • เป็นการปะที่สะดวกและรวดเร็ว ไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษมาก

แต่การปะยางรถยนต์แบบสตรีมเย็นก็มีข้อเสียบ้าง เช่น

  • เป็นการปะที่ไม่สามารถซ่อมแซมยางที่เกิดรอยฉีกขาดใหญ่ได้
  • เป็นการปะที่ไม่สามารถป้องกันการรั่วซึมของลมจากด้านนอกได้
  • เป็นการปะที่อาจต้องทำซ้ำหลายครั้ง ถ้ารอยรั่วเกิดขึ้นใหม่

เลือกวิธีปะยางรถยนต์อย่างไรให้เหมาะกับการใช้งาน

การเลือกวิธีปะยางรถยนต์ที่เหมาะสมนั้นควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

  • ขนาดของรอยรั่ว รอยรั่วขนาดเล็กสามารถใช้วิธีการปะยางแบบแทงไหมได้ แต่หากรอยรั่วขนาดใหญ่หรือเกิดจากการฉีกขาด ควรใช้วิธีการปะยางแบบสตรีมร้อนหรือสตรีมเย็น
  • ประเภทของยางรถยนต์ ยางรถยนต์บางประเภท เช่น ยางรันแฟลต ไม่สามารถปะยางได้ ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนยางใหม่
  • การใช้งานของยางรถยนต์ หากยางรถยนต์มีการใช้งานหนัก ควรใช้วิธีการปะยางแบบสตรีมร้อนหรือสตรีมเย็น เพราะมีความทนทานมากกว่าการปะยางแบบแทงไหม

การปะยางรถยนต์ในปัจจุบันมี 3 วิธีหลัก ๆ 

  • ปะยางแบบแทงไหม เป็นวิธีการปะยางที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด เหมาะสำหรับรอยรั่วขนาดเล็ก เช่น รอยรั่วที่เกิดจากตะปูหรือเศษเหล็กทิ่มแทง ขั้นตอนการปะยางแบบแทงไหมคือ ดึงสิ่งแปลกปลอมที่ทิ่มยางออก จากนั้นใช้อุปกรณ์แทงไหมแทงเข้าไปในรูรั่วแล้วสอดใยไหมเข้าไปอุดรูรั่ว ขั้นตอนนี้อาจต้องใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที
  • ปะยางแบบสตรีมร้อน เป็นวิธีการปะยางที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เหมาะสำหรับรอยรั่วทุกขนาด รวมถึงรอยรั่วที่เกิดจากการฉีกขาด ขั้นตอนการปะยางแบบสตรีมร้อนคือ ถอดยางออกจากล้อแม็ก จากนั้นใช้เครื่องสตรีมร้อนเพื่อเจาะรูเข้าไปที่รอยรั่ว แล้วจึงใช้แผ่นยางปิดทับรูรั่ว จากนั้นใช้เครื่องกดความร้อนเพื่อเชื่อมแผ่นยางกับเนื้อยาง ขั้นตอนนี้อาจต้องใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที
  • ปะยางแบบสตรีมเย็น เป็นวิธีการปะยางที่คล้ายกับการปะยางแบบสตรีมร้อน เพียงแต่ใช้เครื่องสตรีมเย็นแทนเครื่องสตรีมร้อน ขั้นตอนการปะยางแบบสตรีมเย็นคือ ถอดยางออกจากล้อแม็ก จากนั้นใช้เครื่องสตรีมเย็นเพื่อเจาะรูเข้าไปที่รอยรั่ว แล้วจึงใช้แผ่นยางปิดทับรูรั่ว จากนั้นใช้เครื่องกดความร้อนเพื่อเชื่อมแผ่นยางกับเนื้อยาง ขั้นตอนนี้อาจต้องใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที

สรุป

การปะยางรถยนต์เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม หากคุณกำลังมองหาร้านปะยางรถยนต์ที่มีคุณภาพและบริการดีเยี่ยม เราขอแนะนำร้าน payangrod.com เรามีประสบการณ์ในการปะยางรถยนต์มายาวนาน ด้วยช่างที่มีความชำนาญและอุปกรณ์ที่ทันสมัย เราพร้อมให้บริการปะยางรถยนต์ทุกรูปแบบ รับประกันคุณภาพทุกงาน ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 095-159-4540